วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การใช้ Office



ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ (Microsoft Office) 
           ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ (อังกฤษ: Microsoft Office) เป็นชุดโปรแกรมสำนักงาน พัฒนาโดยไมโครซอฟท์ ซึ่งสามารถใช้งานได้ในระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์ และแอปเปิล แม็คอินทอช ไมโครซอฟท์ออฟฟิศยังมีการส่งเสริมให้ใช้บริการผ่านระบบเครื่องแม่ข่าย (Server) และ บริการผ่านหน้าเว็บ (Web Based) ในรุ่นใหม่ๆ ของไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ เราจะเรียกมันว่า ระบบสำนักงาน (Office system) แทนแบบเก่าคือ ชุดโปรแกรมสำนักงาน (Office Suite) ซึ่งการเรียกว่า ระบบสำนักงานจะรวมการทำงานกับเครื่องแม่ข่ายเอาไว้ด้วย ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้ประกาศเรื่อง "ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2007" ที่จะเปลี่ยนแปลงหน้าจอการใช้งาน (User Interface) และ รูปแบบไฟล์แบบ XML เป็นหลัก รุ่นเสถียรล่าสุด คือไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ 2007 ซึ่งออกจำหน่ายในวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2550 
       ในปัจจุบันการใช้งานโปรแกรมชุด Microsoft Office เป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างมากในสำนักงานเพาระว่าโปรกรม Microsoft Office สามารถใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง โปรแกรมทุกๆโปรมแกรมใน Microsoft Office มีโครงสร้างและวิธีการใช้งานคล้ายๆ กัน ดังนั้นเมื่อเข้าใจโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งใน Microsoft Office ก็จะช่วยลดเวลาในการเรียนรู้โปรแกรมอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
ในใบความรู้นี้จะได้เรียนรู้เรื่องทั่วๆ ไป เกี่ยวกับ Microsoft Word 97 อันได้แก่ความสามารถในการเปิดและปิดโปรแกรม การสร้างเอกสารอย่างง่ายๆ และการขอความช่วยเหลือจากโปรแกรม Microsoft Word 97   

การใช้งาน Microsoft Word 2010
      โปรแกรม Microsoft Word 2010 เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการจัดทำเอกสารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น รายงาน จดหมาย ตลอดจนตารางข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก จึงเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน จนทำให้บริษัทผู้ผลิตได้มีการพัฒนาโปรแกรมให้มีความสามารถมากกว่าเดิมอีก และโปรแกรมใหม่นี้มีชื่อ ว่า Microsoft Word 2010

                               

การใช้งาน  Microsoft Excel
              โปรแกรม Microsoft Excel เป็นโปรแกรมหนึ่ง ที่จัดอยู่ในชุด Microsoft Office โปรแกรม MS Excel มีชื่อเสียงในด้าน การคำนวณเกี่ยวกับตัวเลข และการทำบัญชี ต่าง ๆ การทำงานของโปรแกรม ใช้ตารางตามแนวนอน (rows) และแนวตั้ง (columns) เป็นหลัก ซึ่งเราเรียกโปรแกรมในลักษณะนี้ว่าเป็น Spread Sheet



การใช้งาน   PowerPoint 2010
        PowerPoint 2010 คือโปรแกรมประยุกต์แบบภาพและกราฟิก ที่มีจุดประสงค์หลักในการใช้เพื่อสร้างงานนำเสนอ PowerPoint ทำให้คุณสามารถสร้าง ดู และแสดงการนำเสนอภาพนิ่งที่รวมข้อความ รูปร่าง รูปภาพ กราฟ ภาพเคลื่อนไหว แผนภูมิ วิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย

การใช้งาน  Microsoft visio        
        ซอฟต์แวร์ Visio เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยสร้างกราฟฟิกและแผนภูมิได้ง่ายดายอย่างมีประสิทธิภาพเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับองค์กรที่ต้องใช้กราฟฟิก แผนภูมิ แผนผัง และตารางต่างๆ ในการนำเสนองานรวมทั้งการสร้างบนเว็บไซต์  Visio เป็นเครื่องมือที่เสริมการทำงานของ Microsoft Office ในการช่วยให้สร้างแผนภูมิ แผนผัง ตารางแสดงโครงสร้างองค์กร แผนภูมิทางการตลาด ตารางเวลา และอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารโดยช่วยให้แต่ละแผนกสามารถดูแผนภูมิหรือตารางในรูปแบบไฟล์ที่แตกต่างกันตามต้องการได้ เช่น ไฟล์ที่ส่งทางอี - เมล์ ระบบอินทราเน็ต และ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น



การใช้งาน  Microsoft OneNote
    Microsoft OneNote 2010 คือสมุดบันทึกแบบดิจิทัลที่ทำให้คุณสามารถรวบรวมข้อมูลและบันทึกย่อทั้งหมดของคุณไว้ด้วยกันในที่เดียวได้ ด้วยความสามารถในการค้นหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งจะช่วยให้คุณค้นหาสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยสมุดบันทึกแบบใช้งานร่วมกันที่เข้าใจง่ายที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการการข้อมูลที่อยู่มากมาย และทำงานร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การใช้งาน Microsoft SharePoint Designer 
           Microsoft SharePoint Designer 2010 เป็นโปรแกรมการออกแบบเว็บและโปรแกรมประยุกต์ที่ใช้เพื่อออกแบบ สร้าง และปรับแต่งเว็บไซต์ที่ทำงานบน Microsoft SharePoint Foundation 2010 และ Microsoft SharePoint Server 2010 เมื่อใช้ SharePoint Designer 2010 คุณจะสามารถสร้างเว็บเพจที่เพียบพร้อมด้วยข้อมูล สร้างโซลูชันที่เปิดใช้งานเวิร์กโฟลว์และมีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งออกแบบลักษณะที่ปรากฏของไซต์ของคุณได้
















วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การสร้าง/แก้ไขงาน Graphie

2. การสร้าง/แก้ไขงาน Graphie
http://www.rangforever.com/news.php?id=19

1.โปรแกรมAdobe Photoshop
     สำหรับโปรแกรมนี้ในปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมคลาสิกที่่เกือบทุกเครื่อง จำเป็นต้องติดตั้งไว้ เพราะ Photoshop เป็นโปรแกรมในการออกแบบ การแต่งภาพ การใส่เอ็ฟเฟ็กยอดนิยม ด้วยความที่ใช้งานง่ายและมีเครื่องมีในการใช้งานมากมาย สามารถผลิกแผลงได้สารพัดประโยชน์ โดยส่วนใหญ่จะใช้ในการตัดต่อภาพ การแต่งภาพให้สวยขึ้น คมชัดขึ้น ขาวขึ้น  ในปัจจุบันโปรแรกมAdobe Photoshop มีออกมาหลายเวอร์ชัน และยังคงพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง

2.โปรแกรมAdobe Flash
     สำหรับโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่ใช้ทำ Animation หรือภาพเคลื่อนไหว ซึ่งใช้งานง่าย เพราะโปรแกรมไม่มีความซับซ้อนมากนัก ถือเป็นโปรแกรมพื้นฐานในการหัดออกแบบภาพเคลื่อนไหว


3.โปรแกรมAdobe Illustrator
      โปรแกรมออกแบบโลโก้ ออกแบบภาพ เสริม เติม แต่งภาพ ระดับมืออาชีพ มีฟังก์ชันคล้ายกับPhotoshop แต่มีการทำงานที่เหนือชั้นกว่าในการออกแบบ โปรแกรมนี้อาจต้องลองศึกษาเพิ่มเติม แต่รับประกันว่าเป็นโปรแกรมที่ออกแบบภาพได้ดีเยี่ยมโปรแกรมหนึ่ง




4.โปรแกรมAdobe InDesign
     โปรแกรมนี้ผมนิยมใช้ในการออกแบบวารสาร นิตยสาร หน้าสืออิเล็กทรอนิกส์ อยู่ในตระกลู Adobe เหมือนกัน





5.โปรแกรมSweet Home 3D
     โปรแกรมที่สำหรับการออกแบบบ้าน ที่มีลักษณะการใช้งานง่ายๆ และไม่ยุ่งยากเลย โดยจะมีอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ให้เราได้เลือกจำนวนมากมาย และยังสามารถที่จะนำอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มได้ตลอด ซึ่งโปรแกรมรองรับไฟล์การ Import ได้หลายแบบ


6.โปรแกรมGoogleSketchUpWEN
     เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งในการใช้ออกแบบแปลนบ้าน ออกแบบโครงสร้างการก่อสร้าง เหมาะสำหรับนักสถาปนิคในการออกแบบ



7.โปรแกรมPhotoScapeSetup
     โปรแกรมตัดต่อภาพ เปลี่ยนแปลงภาพ เพิ่มแสงเงา ใส่กรอบ เพิ่มข้อความ สัญลักษณ์ ลดขนาดไฟล์ภาพ ออกแบบโลโก้อย่างง่าย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่นิยมใช้งาน เพราะใช้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานหรือศึกษาโปรแกรม ด้วยโปรแกรมไม่ได้ซับซ้อนเหมือนกับโปรแกรมออกแบบอื่นๆ ติดตั้งแล้วลองใช้งานได้เลย























การพัฒนาเว็บไซต์

1. การพัฒนาเว็บไซต์
http://web.stoms.co.th/2013/11/13/10-programs-webdesign/


























แผนที่บ้าน



วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทที่ 12




บทที่ 12
สรุปท้ายบทที่ 12
แน้วโน้มในหลายองค์กร จำเป็นต้องลงทุนด้านความปลอดภัยที่มากขึ้น โดยฉพาะองค์กรที่มีการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศเข้ากับเครือข่ายภายนอกอย่างอินเทอร์เน็ต
ดาวน์ไทม์ คือช่วงเวลาที่ระบบหยุดทำงาน โดยผู้ใช้ไม่สามารถใช้งานระบบสารสนเทศ และไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลระบบได้ จนกว่าจะมีการแก้ไขให้ระบบกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นความเสี่ยงนระบบสารสนเทศ ที่เกี่ยวข้องกับไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ ฟ้าแลบ และฟ้าผ่า ซึ่งส่งผลต่อความเสียหายในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์
การถูกก่อกวนและทำลายโดยคนป่าเถื่อน เป็นการถูกทำลายด้วยความจงใจโดยน้ำมือมนุษย์ด้วยมุ่งทำลายอุปกรณ์ให้เกิดความเสียหาย
Identitu Theft เป็นการสวมรอยเป็นตัวคุณ ด้วยการขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสประจำตัวผู้ใช้และรหัสผ่านของผู้อื่น ไปกำเนินธุรกิจทางการเงิน หรือเรื่องอื่น ๆ ที่ส่อทุจริตและเสื่อมเสีย
Social Engineering เป็นการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยการใช้กลวิธีโทรศัพท์หาเหยื่อ แล้วอ้างตัวเองว่ามาจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ จากนั้นก็หลอกเหยื่อให้ตายใจและหลงผิดปฎิบัติตาม ด้วยการให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลสำคัญบางอย่าง โดยเฉพาะทางการเงิน
Phishing เป็นการหลอกเหยือให้คลิกเข้าไปยังเว็ปไซค์ของตน ซึ่งเป็นเว็ปปลอม หากเหยื่อหลงกลด้วยการลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงินผ่านเว็ปไซค์ปลอมแห่งนี้ ข้อมูลสำคัญของท่านจะถูกลักลอบไปใช้ในทางที่ผิด
Web Defacement เป็นการเจาะระบบด้วยการเปลี่ยนโฉมหน้าเว็ปให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม
ไวรัสคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมขนาดเล็ก ที่สามารถแฝงเข้าไปกับไฟล์ข้อมูล ครั้นเมื่อไวรัสคอมพิวเตอร์ตอดเข้าไปในเครี่องแล้ว จะทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องนั้น ๆ เกิดปัญหาต่าง ๆ นานา จาการใช้งาสน
เวิร์ม หรือ หนอนไวรัส มักสร้างความเสียหายให้กับระบบเครือข่ายเป็นสำคัญ โดยมีความสามารถในการคัดลอกตัวเองเพื่อขยายพันธุ์และชอนไชไปยังคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายหรืออินเทอร์เน็ตจทำให้เครือข่ายเต็มไปด้วยหนอนไวรัส ส่งผลต่อการจราจรบนเครือข่ายติดขัด และทำให้เครือข่ายล้มในที่สุด
ม้าโทรจัน จัดเป็นจัดเป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ลักลอบเข้ามาด้วยการซ่อนมากลับแฟ้มข้อมูล อีเมล เกม หรือการ์ดอวยพรอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลักลอบเข้ามาเป็นสายลับ และทำการแอบส่งข้อมูลเป็นความลับในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานส่งกลับไปยังโฮส์ตของผู้สร้าง
ลอจิกบอมบ์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายล้างระบบคอมพิวเตอร์ โดยชุดคำสั่งในลอจิกบอมบ์ ผู้เขียนจะมีการสร้างเงื่อนไขเอาไว้เพื่อปฏิบัติการบางอย่าง และหาสถานการณ์ในวันนั้นตรงกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในชุดคำสั่ง ชุดคำสั่งในลอจิกบอมบ์ก็ถูกกระตุ้นให้ทำงานโดยทันที เช่น การฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์
ขั้นตอนการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
1. ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสและสั้งให้ทำงานอยู่เสมอ
2. อัพเดทซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
3. สแกนอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกทุกครั้ง ก่อนคัดลอกหรือสั่งรันโปรแกรม
4. เลือกติดตั้งซอฟต์แวร์ที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น
5. ติดตามไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาอย่างระมัดระวัง
6. หากตรวจพบไวรัส จะต้องจัดการโดยทันที
การโจมตีเพื่อปฏิเสธการให้บริการ เป็นการโจมตีเพื่อให้คอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่ายหยุดตอบสนอง
บริการใด ๆ จนกระทั่งระบบอยูในสภาวะที่ไม่สามารถบริการทรัพยากรใด ๆ ได้อีก
การถูกโจรกรรมโดย Hijack เกิดจากบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งหรือแฮกเกอร์ได้ลักลอบแอบไปติดตั้งโปรแกรมขนาดเล็กที่เรียกว่าบอท ลงในคอมพิวเตอร์ เพื่อทำหน้าที่แทนมนุษย์เพื่อจัดการบางอย่าง เช่น การส่งเมลขยะ
มาตรการควบคุม ประกอบด้วย
1. ความสมารถในการป้องกันข้อผิดพลาดของโปรแกรม และการควบคุมการป้อนข้อมูล
2. การสำรองข้อมูล
3. การควบคุ้มการเข้าถึง
4. ความเป็นหนึ่งเดียวในทรานแซกชั่น
5. การตรวจสอบประวัติการทำงาน
มาตรการความปลอดภัย ประกอบด้วย
1. ไฟล์วอล
2. การพิสูจน์ตัวตนและการเข้ารหัส
3. ลายเซ็นดิจิตอล
4. ใบรับรองดิจิตอล
มาตรการกู้คืน มุ่งเน้นการจัดระบบสำรองที่จะทำร่วมกับระบบหลัก หากระบบหลักเกิดข้อขัดข้อง ระบบสำรอง
ก็จะถูกปลุกขึ้นมาให้ทำงานแบบอัตโนมัติ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันความล้มเหลวเท่าทีจะสามารถทำได้ แต่การดำเนินงาดังกล่าวต้องมีการสำรองทรัพยากรไว้อย่างน้อย 2 ชุด

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทที่ 11



บทที่ 11
สรุปท้ายบทที่ 11
การวางแผน ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่นำพาให้องค์ไปสู่เป้าหมายด้วยวิธีการอย่างมีแบบแผนมีทิศทางกระบวนการทำงาน
การกำหนดวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพันธกิจเป้าหมาย กลยุทธ์ และนโยบายขององค์กร
การวางแผ่นยุทธวิธี เกี่ยวข้องกับการตั้งวัตถุประสงค์และการพัฒนาขั้นตอนวิธี กฎ ตารางการปฏิบัติงาน
การวางแผนปฏิบัติการ จะดำเนินการแบบระยะสั้น ที่นำไปใช้เพื่อการควบคุมการปฏิบัติงานแบบวันต่อวัน ตัวอย่างเช่น การว่างแผนโครงการ และการจัดตารางการผลิต เป็นต้น
การวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจและไอที มักนิยมใช้ แมทริกซ์โอกาสทางกลยุทธ์ ที่ช่วยประเมิลศักยภาพของกลยุทธ์ทางธุรกิจและโอกาสทางไอที ทำนองเดียวกันกับการประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่น่าจะเป็นไปได้
การวิเคราะห์ SWOT เป็นเครื่องมือในการประเมินสถานการณ์ถึงผลกระทบในแต่ละความเป็นไปได้ของโอกาสทางกลยุทธ์ที่สามารถมีในองค์กร รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยที่
• จุดแข็ง คือความสามารถหลักขององค์กรที่ทำได้ดีเหนือคู่แข่งขัน
• จุดอ่อน คือการปฏิบัติงานทางธุรกิจในบางส่วนที่ต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน
• โอกาส คือศักยภาพสำหรับตลาดธุรกิจใหม่ ที่นำมาใช้เพื่อขยายตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
• อุปสรรค คือศักยภาพของคู่แข่งขันที่ส่งผลต่อความสูญเสียทางการตลาดในธุรกิจของเรา
แบบจำลองธุรกิจ คือกรอบแนวความคิดที่แสดงถึงองค์ประกอบต่าง ๆ และตรรกะทางเศรษฐศาสตร์ที่มีเหตุมีผลต่อการดำเนินงาน ว่าจะให้ธุรกิจสามารถส่งมอบคุณค่าไปสู่ลูกค้า ด้วยต้นทุนที่เหมาะสมและธุรกิจสามารถทำเงินได้อย่างไร โดยจะต้องตอบคำถามพื้นฐานเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งประกอบด้วย

• ใครคือลูกค้าเรา ?
• จะมอบคุณค่าอะไรแก่ลูกค้าของเรา
• ต้องใช้ต้นทุนเท่าไรกับการส่งมองคุณค่าไปยังลูกค้าของเรา
• เราจะทำเงินในธุรกิจนี้ได้อย่างไร ?
เทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถช่วยส่งเสริมให้เกิดการเปลื่ยนแปลงในองค์กรได้หลายระดับด้วยกันตั้งแต่การเปลื่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย และค่อย ๆ เข้มข้นขึ้น จนกระทั่งเกิดการเปลื่ยนแปลงอย่างมาก
ระดับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร ประกอบด้วย 4 ระดับกันคือ
1. ระบบงานแบบอัตโนมัติ
2. การเปลื่ยนแปลงกระบวนการทำงาน
3. การปรับรื้อระบบใหม่
4. การปรับเปลื่ยนกระบวนทัศน์สู่องค์กรที่มีความเป็นเลิศ
ขั้นตอนการวางแผนระบบสารสนเทศ ประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้
• การสร้างพันธกิจระดับองค์กรและพันธกิจทางไอทีขึ้นมา
• กำหนดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนต่อการนำไอทีมาใช้กับองค์กร
• สร้างกลยุทธ์ทางไอทีและแผนยุทธวิธีขึ้นมา
• วางแผนการปฏิบัติงานเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามพันธกิจและวิสัยทัศน์
• กำหนดงบประมาณเพื่อมั่นใจได้ว่าสามารถจัดหาทรัพยากรเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามพันธกิจและวิสัยทัศน์
พันธกิจ หรือ ภารกิจ เป็นจุดมุ่งหมายพื้นฐานที่แสดงถึงเหตุผลว่า ทำไมองค์กรจึงถือกำเนิดมา เป็นหลักการที่นำมาใช้เพื่อแนวทางในการกำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และกลยุทธ์ และถือเป็นกรอบการทำงานของกลยุทธ์ในภาพรวมทั้งหมด เพื่อนำไปสู่กลยุทธ์ระดับหน้าที่ที่จะต้องทำ ไม่ทำไม่ได้
วิสัยทัศน์ จะบอกให้รู้ถึงสิ่งที่องค์กรอยากจะเป็น หรือต้องการจะเป็นในอนาคต เพื่อให้รู้ทิศทางขององค์กรที่จะเดินไปในอนาคต โดยคำประกาศในวิสัยทัศน์ควรเป็นถ้อยคำที่สามารถปลุกเร้าให้สมาชิกในองค์กรมีความมุ่งมั่นที่จะพยายามยกระดับเพื่อไปสู่เป้าหมายในอนาคต
พันธกิจทางไอที ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญของพันธกิจในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งจะต้องมีความเข้ากันได้กับพันธกิจในภาพใหญ่
วิสัยทัศน์ไอที เป็นการรวมตัวกันของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่ายอย่างดีเลิส (ในอุดมคติ) เพื่อไปสู่การสนับสนุนพันธกิจในภาพรวม
แผนกลยุทธ์ไอที เป็นเป้าหมายระยะยาวที่ถูกกำหนดขึ้นตามวิสัยทัศน์ไอทีและกลยุทธ์ ซึ่งได้นิยามถึงแนวคิดอนาคตของเทคโนโลยีสารสรเทศอะไรที่ควรจะทำ เพื่อบรรลุผลตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์
แผนยุทธวิธีไอที เป็นแผนระยะสั้นที่กำหนดวิธีการให้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ไอที ประกอบด้วยวัตถุประสงค์และแนวทางที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งเป็นคำประกาศเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการจะบรรลุ เป็นคำมั่นสัญญาหรือข้อผูกมัดที่ต้องทำเพื่อให้บรรลุผลภายในกรอบเวลาที่กำหนด
การวางแผนปฏิบัติการ เป็นรายละเอียดของงานที่มีความเป็นเฉพาะมากขึ้น เพื่อให้โครงการต่าง ๆ สามารถดำเนินงานได้อย่างสัมฤทธิ์ผลตามงบประมาณที่กำหนดไว้
วงจรการพัฒนาระบบ ประกอบด้วย 5 ระยะด้วยกัน คือ
ระยะที่ 1 : การวางแผนโครงการ
ระยะที่ 2 : การวิเคราะห์
ระยะที่ 3 : การออกแบบ
ระยะที่ 4 : การนำไปใช้
ระยะที่ 5 : การบำรุงรักษา
นักวิเคราะห์ระบบ เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่ประสานการติดต่อกับบุคคลในระดับต่าง ๆ เพื่อศึกษาถึงปัญหาและความต้องการขององค์กร ด้วยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาทางธุรกิจนักวิเคราะห์ระบบเป็นผู้มีความรู้ระบบธุรกิจ มีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์และออกแบบระบบงานทางธุรกิจ เพื่อนำไปสู่การได้มาของระบบที่สามารถนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ตรงตามความต้องการของผู้ใช้